ถ้าอยู่ได้นานกว่านี้มีอะไรอยากทำบ้างไหมครับ
หนังสือที่จะทำให้ความหมายของชีวิต เรียนรู้คุณค่าชีวิตที่คุณทำหล่นหายผ่านการตัดสินใจของผู้ป่วยระยะสุดท้ายเวลาชีวิตที่เหลืออยู่จะเป็นผู้เล่าให้คุณฟัง
-ถูกเสนอชื่อเป็นหนังสือแห่งปี 2021-
หมอแผนกอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาที่ทำงานในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่ทำได้แค่เยียวยาจิตใจถ่วงเวลาชีวิตที่เหลือไปเรื่อย ๆ ด้วยเรื่องราวที่ได้เรียนรู้จากคนไข้ การตัดสินใจต่อชีวิตที่เหลือที่แตกต่างกัน จึงนำเรื่องเหล่านั้นมาจดบันทึก ส่วนหนึ่งก็เพื่อศึกษาพฤติกรรมคนไข้ อีกส่วนเป็นการทำความเข้าใจกับคุณค่าของชีวิตอีกครั้ง
คนไข้มีความแตกต่างกัน ทั้งช่วงวัย ทั้งหน้าที่การงาน การมองความตายและเวลาที่เหลือก็แตกต่างกัน บ้างสิ้นหวัง บ้างมีหวัง บ้างเฉยเมย ซึ่งความแตกต่างนี้ทำให้มีเรื่องที่น่าสนใจและน่าขบคิดเกี่ยวกับชีวิตอีกมากมาย ชีวิตมีวินาทีที่เปลี่ยนชีวิต มีช่วงเวลาที่เป็นบทเรียนของคนอื่น เป็นบทเรียนถ้าเลือกได้ก็อยากรู้ก่อนเกิดกับตัวเอง เรียนรู้คุณค่าของเวลา ใช้เวลากับชีวิต เห็นความสำคัญกับผู้คนรอบข้างมากขึ้น มาเรียนรู้ชีวิตผ่านช่วงเวลาสุดท้ายของผู้อื่น ก่อนที่เราจะเสียดายเมื่อถึงเวลาสุดท้ายของตัวเราเองให้เวลาชีวิตที่เหลืออยู่ของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายเป็นผู้เล่าให้เราฟังเถอะนะ
เรื่องย่อ
เป็นหนังสือที่สะท้อนถึงความลึกล้ำของชีวิตและความตายผ่านมุมมองของนายแพทย์คิมบ็อมซ็อก แพทย์อายุรศาสตร์มะเร็งที่มีประสบการณ์อันยาวนานในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง
ผู้เขียนใช้เรื่องราวและประสบการณ์ส่วนตัวในการดูแลผู้ป่วยเพื่อนำเสนอมุมมองที่ซื่อสัตย์และเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับความท้าทายและความเจ็บปวดที่ผู้ป่วยและครอบครัวต้องเผชิญผ่านหน้าหนังสือ
ผู้อ่านจะเดินทางไปกับผู้เขียนเพื่อสำรวจและเข้าใจเรื่องราวของความสูญเสีย ความเจ็บปวด ความหวัง และความเข้มแข็ง หนังสือนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความท้าทายในการรักษาและการดูแลผู้ป่วยมะเร็งเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเข้มแข็งและความกล้าหาญของผู้ป่วยและครอบครัวที่ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิต
นอกจากนี้ หนังสือยังนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับการยอมรับความจริงของความตายและการเรียนรู้ที่จะมองเห็นคุณค่าของชีวิตที่เรามี ผู้เขียนแบ่งปันข้อคิดและประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและเต็มที่ในทุกๆวัน
หนังสือนี้เป็นการสำรวจเรื่องราวของมนุษย์และชีวิตที่ผ่านการทดสอบของเวลา ความท้าทาย และความเจ็บปวด และเป็นบทเรียนที่มีค่าเกี่ยวกับการมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของทุกวันที่เรามี
จุดเด่นของหนังสือ
• ผู้เขียนใช้ประสบการณ์ของตนเองเป็นแพทย์มะเร็งเพื่อนำเสนอมุมมองที่ลึกซึ้งและเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับชีวิตและความตาย
• หนังสือนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ป่วยและครอบครัวเผชิญหน้าและรับมือกับโรคมะเร็ง
• ผู้อ่านจะได้รับแรงบันดาลใจและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและการเห็นคุณค่าของเวลา
แนะนำโดยนักอ่าน
หนังสือแนะนำมากครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าไม่เหมาะกับคนที่คิดว่าความตายเป็นสิ่งอัปมงคล ไม่ควรพูดถึง แต่เหมาะมากกับคนที่อยากเตือนตัวเองว่าวันหนึ่งเราและคนที่เรารักจะต้องตายลงไป แม้อาจไม่ได้เป็นโรคร้ายเหมือนในเล่มนี้ก็ตาม เพราะความตายนั้นสอนเรื่องชีวิตได้ดีเสมอ
ชื่อหนังสือ "ถ้าอยู่ได้นานกว่านี้ มีอะไรอยากทำบ้างไหมครับ"
หลักใหญ่ใจความของหนังสือเล่มนี้ นี่คือบันทึกที่คุณหมอโรคมะเร็งแห่งกรุงโซล เกาหลีใต้ เขียนบันทึกเล่าเรื่องราวและความรู้สึกที่เขาพบเจอผู้ป่วยมะเร็งต่างกรรมต่างวาระกันไป (โดยปรับเปลี่ยนชื่อและรายละเอียดผู้ป่วย) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเป็นผู้ป่วยระยะประคับประคอง คือไม่ดีไปกว่านี้ได้อีกแล้ว ชื่อหนังสือก็มาจากประโยคหนึ่งที่คุณหมอถามผู้ป่วยนี่แหละครับ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
เกี่ยวกับผู้เขียน
นายแพทย์คิมบ็อมซ็อก ผู้เขียนหนังสือ "ถ้าอยู่ได้นานกว่านี้" เป็นแพทย์อายุรศาสตร์มะเร็งที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ผ่านการทำงานและการเขียนหนังสือของเขา
นายแพทย์คิมได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของเขาในการรับมือกับความท้าทายทางด้านสุขภาพและความเจ็บปวด รวมทั้งการให้คำแนะนำและแรงบันดาลใจแก่ผู้อ่านในการเผชิญหน้ากับความยากลำบากและการมองเห็นคุณค่าของชีวิต